ซน ฮึง มิน กับเรื่องราวเกี่ยวกับเขา

อัพเดทเมื่อ 18 ตุลาคม 2023 เข้าดู ครั้ง

[seed_social]

ซน ฮึง มิน กัปตันทีมของของสเปอร์สหากเรามาวัดกันที่ผลงาน, ความสามารถ และการพิสูจน์ตัวเองในลีกระดับโลก นี่คือนักเตะเอเชียที่เก่งสุดตลอดกาล

ซน ฮึง มิน แน่นอนว่า ทักษะการเล่นของเขา ถูกพูดถึงในหลากหลายแง่มุม ทั้งการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม และการจบสกอร์ที่เฉียบขาด อย่างไรก็ตาม หนึ่งความสามารถที่เด่นชัด ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้า นั่นคือการเล่นฟุตบอลได้ทั้งสองเท้า สถิติปัจจุบัน เขา ยิงประตูในพรีเมียร์ลีก รวมแล้ว 109 ประตู โดยมีนักเตะเพียงแค่ 34 คน ที่ยิงได้เกินหลัก 100 ลูก

ซน ฮึง มิน ส่งผลให้เขากลายมาเป็นนักเตะสายเลือดเอเชีย ที่ยิงประตูได้มากสุดในพรีเมียร์ลีก อีกด้วย

สำหรับสถิติที่น่าสนใจยังบอกอีกว่า เขา คือคนที่ยิงประตูด้วยเท้าข้างไม่ถนัดได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หากเจาะลึกลงไป เขา ถือว่าเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าขวา กระนั้น เขาก็ยิงประตูด้วยเท้าซ้ายได้มากมาย เมื่อเทียบกันแล้ว เท้าทั้งสองข้างจบสกอร์เกือบที่จะ 50 เปอร์เซ็นต์เท่ากันเลย เราลองไปค้นหาคำตอบกันหน่อยว่า ทำไมเขาถึงเป็นนักเตะที่เล่นสองเท้าที่ดีสุดในพรีเมียร์ลีก

“ซน อุง-จอง” คุณพ่อของ เขา คือเบื้องหลังทั้งหมดของเรื่องนี้ หากใครที่เป็นแฟนของเขา ย่อมรู้ดีว่า คุณพ่อคือคนที่ฝึกฟุตบอลให้ตั้งแต่เด็ก คุณพ่อออกมาย้อนความทรงจำว่า เขา ลืมตาดูโลก พร้อมกับเป็นเด็กที่ถนัดเท้าขวา อย่างไรก็ตาม เขาเล็งเห็นแล้วว่า หากลูกชายถนัดทั้งสองเท้า ก็จะเพิ่มความอันตรายในการลงสนาม และพัฒนาในสิ่งที่คนอื่นมักไม่ค่อยมี คุณพ่อเล่าต่อไปว่า ก่อนที่จะไปถึงในเรื่องของการเล่นฟุตบอล เขาคอยปลูกฝังให้ เขา ใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการใช้เท้าซ้ายก่อนเสมอ ที่คือกฏเหล็กข้อสำคัญ

คุณพ่อกล่าวว่า “ตั้งแต่เป็นเด็ก เวลาที่ลูกชายของผมจะเอาน้ำมาล้างเท้า เขาต้องเริ่มต้นล้างเท้าซ้ายก่อนเสมอ ตอนสวมใส่ถุงเท้า ลูกชายต้องสวมเท้าซ้ายก่อน, เวลาผูกเชือกรองเท้า ต้องผูกข้างซ้ายก่อน และเวลาลงสนามแข่งขัน ต้องก้าวเท้าซ้ายก่อน”

กิจวัตรประจำวันเหล่านั้น ทำให้เขา ซึมซับการใช้เท้าซ้ายอย่างต่อเนื่อง และมันค่อยๆซึมเข้าไปในนิสัยส่วนตัวของเขา จนกลายเป็นความเคยชินในที่สุด เมื่อกิจวัตรประจำวัน เริ่มต้นด้วยเท้าซ้ายก่อนเป็นอันดับแรกแล้ว สิ่งต่อมาคือการนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกฟุตบอล

คุณพ่อบอกว่า สมัยที่ยังเป็นเด็ก เขา ต้องฝึกยิงด้วยเท้าซ้ายมากกว่าเท้าขวาข้างถนัด ประมาณเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว ลูกชายของผมต้องพลิกแพลง ด้วยการเล่นได้ทั้งสองเท้า ไม่เช่นนั้น คู่แข่งก็จะจับทางเขาได้อย่างง่ายดายดังนั้น ผมจึงฝึกให้ลูกชายฝึกเท้าซ้ายอย่างหนักหน่วง เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆในสนามได้อย่างฉับพลัน คุณพ่อกล่าวทิ้งท้าย ซึ่งการเพาะบ่มเหล่านั้น ทำให้ซาน กลายเป็นนักเตะที่มีความถนัด ทั้งเท้าซ้าย และเท้าขวา

การที่ เขา เป็นนักเตะที่ถนัดทั้งสองเท้า นอกจากการเอาชีวิตประจำวัน เป็นตัวนำทางแล้ว การฝึกซ้อมอย่างหนัก ถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการพาเขาก้าวมาอยู่ในจุดที่ ไม่รู้ว่าถนัดเท้าไหนมากกว่ากันย้อนกลับไปในวัยเด็ก เขา เคยฝึกแปบอลมากกว่าวันละ 1,000 ครั้ง !!!! สลับกันไปเรื่อยๆ ระหว่างเท้าขวา กับเท้าซ้าย นอกจากนี้ คุณพ่อไม่ยอมส่งเขา เดินทางไปแข่งขัน ตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆที่จัดขึ้นมา โดยอยากให้เน้นเรื่องเบสิคพื้นฐานจนแน่น จนถึงช่วงวัยรุ่นค่อยไปแข่ง

ดังนั้น ชีวิตวัยเยาว์ทั้งหมดของเขา จึงหมดไปกับการจ่ายบอล, เลี้ยงบอล และควบคุมบอล บนข้อแม้ว่า เขาต้องใช้เท้าซ้ายมากกว่าเท้าขวาเสมอ เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ นั่นคือตอนที่เขา ตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกเยอรมัน กับสโมสรฮัมบูร์ก ในวัยเพียง 16 ปี คุณพ่อก็ติดตามไปด้วย

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท อดีตเพื่อนร่วมทีม “สิงห์เหนือ” ออกมาบอกว่า เขา ย้ายมาร่วมทีม สมัยที่เป็นเพียงดาวรุ่ง แต่เขาก็มีทักษะเล่นทั้งสองเท้า ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ถึงกับยกย่องว่า เขา และเพื่อนร่วมทีมต่างสงสัยกันว่า ความจริงแล้ว ซน ถนัดเท้าไหนกันแน่

จากนั้น เขา ย้ายไปร่วมทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังจากซ้อมประจำวันเสร็จแล้ว เขาจะฝึกซ้อมพิเศษต่อทันที โดยมีคุณพ่อเป็นเทรนเนอร์คู่ใจ เรื่องดังกล่าว “โรเจอร์ ชมิดท์” อดีตกุนซือของพลพรรค “ห้างขายยา” คือคนที่จำเรื่องดังกล่าวได้อย่างขึ้นใจชมิดท์ ออกมากล่าวว่า เขา ฝึกซ้อมหนักมาก เขาฝึกซ้อมพิเศษกับคุณพ่อของเขา หลังการซ้อมปกติ เขาจะยิงประตูอย่างบ้าคลั่ง ด้วยเท้าซ้าย และเท้าขวา

ปัจจุบัน เขา กำลังลงสนามเป็นฤดูกาลที่ 9 ติดต่อกันกับทีมสเปอร์ส โดยโปรแกรมซ้อมพิเศษของเขา ยังคงเป็นการฝึกยิงด้วยเท้าทั้งสองข้างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หากเจาะลึกลงไป การเล่นได้ทั้งสองเท้าของเขา ทำให้เกมการเล่นของเขามีมิติที่แตกต่างไป กองหลังไม่สามารถบีบให้เขาเล่นด้วยเท้าข้างไม่ถนัดได้

สำหรับเพื่อนร่วมทีม “ไก่เดือยทอง” บางคนออกมาบอกว่า เขา ทำให้แข้งคนอื่นภายในทีม หันมาศึกษาการเล่นทั้งสองเท้ามากขึ้น เพราะการเล่นทั้งสองเท้า ช่วยในการวิ่งเข้ากรอบเขตโทษได้หลายวิธี การใช้เท้าข้างไม่ถนัด ในสถานการณ์ที่บีบบังคับ อาจทำให้เสียบอลไปได้

ปัจจุบันนี้ เวลาเขา จะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสวมถุงเท้า, รองเท้าสตั๊ด , รองเท้าผ้าใบ, กางเกง, นาฬิกา หรืออะไรก็ตาม เขาจะใส่ข้างซ้ายก่อนเสมอ นั่นคือสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ดังนั้น เขาจึงไม่ลืมเรื่องการใช้สองเท้าในสนามฟุตบอล

ซน ฮึง มิน กับเรื่องราวเกี่ยวกับเขา