นาบีเกอิต้า อำลาหงส์ซบเบรเมน

นาบีเกอิต้า เขาคือผู้สืบทอดหมายเลข 8 ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มาพร้อมความคาดหวังสูงลิบ ค่าตัวมโหฬาร เล่นแค่ 129 นัด

นาบีเกอิต้า ย้ายจาก อาร์เบ ไลป์ซิก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวถึง 52.75 ล้านปอนด์ เคยได้รับความสนใจจากทั้ง บาร์เซโลน่า และติดทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกามาด้วย แถมกว่าที่จะได้ตัวมานั้น หงส์แดงต้องเปิดโต๊ะเจรจาหลายรอบ ก่อนจะมาสำเร็จด้วยเงื่อนไขที่ว่าซื้อตัวแล้วยอมปล่อยให้ ไลป์ซิก เก็บไว้ใช้งานต่ออีก 1 ฤดูกาล

นาบีเกอิต้า อุปสรรคสำคัญคืออาการบาดเจ็บอย่างที่เรารู้กัน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือช่วงที่เล่นในบุนเดสลีกาเขาแทบไม่เจอปัญหานี้เลย

ลงสนาม 58 นัดจาก 68 นัดเต็ม โดยที่ 6 จาก 10 เกมที่พลาดการลงสนามยังมาจากการติดโทษแบนอีกต่างหาก นั่นหมายความว่าเขาถูกอาการบาดเจ็บรบกวนแค่ประมาณ 4 นัดเท่านั้นสื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของ เจ้าตัว อาจไม่สามารถปรับตัวกับโปรแกรมการเตะถี่ ๆ ของพรีเมียร์ลีกได้ รวมถึงระบบการซ้อมของ คล็อปป์ ที่ค่อนข้างใช้พลังงงานเยอะมาก

แต่สโมสรก็ไม่เคยนิ่งนอนใจนะครับ มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามากมายเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ นาบีแลด ตลอด ทั้งการนำโยคะเข้ามาช่วย การดูแลเรื่องโภชนาการ รวมถึงมีการปรับโปรแกรมการซ้อมด้วยซ้ำ อันเดรส ชลุมแบร์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูและประสิทธิภาพของสโมสรบอกว่าได้ทำลายความมั่นใจของเขาลงไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีเกมลงเล่นราว ๆ 277 นัด แต่มีชื่อของ เจ้าตัว ในสนามแค่ 129 นัด คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าน้อยมาก ๆเว็บไซต์ Transfermarkt บันทึกประวัติการบาดเจ็บของเขาว่ามีมากถึง 22 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อท้อง, กล้ามเนื้อต้นขา, ปัญหาที่หลัง, ขาหนีบ, เข่า และ ข้อเท้า โดยพักสั้นบ้างนานบ้าง แต่ยาวนานสุดคือพักถึง 90 วัน มีการรวบรวมจำนวนวันที่หายไปของเขาสามารถนับได้กว่า 800 วัน หรือราว ๆ 2 ปีกว่า ๆ เลยนะครับนั่น

ถ้าจำกันได้ ช่วงแรก ๆ ที่เขาย้ายมานั้น มีเกมที่ลงเล่นแล้วสร้างความฮือฮาหรือแสดงให้เห็นถึงคลาสของกองกลางชั้นยอดอยู่หลายนัด การพลิกบอล การพาบอลไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ การแท็คเกิ้ล หลาย ๆ ครั้งเขาทำได้ว้าว แต่พอเจ็บเข้าบ่อย ๆ กลับมาทีนึงก็ต้องรื้อฟื้นจังหวะใหม่ กำลังจะดีก็เจ็บอีก เป็นลูปวนไปจนสุดท้ายแล้ว คล็อปป์ เองไม่สามารถฝากความหวังอะไรไว้ได้อีกต่อไป

ภายใต้เสื้อหมายเลข 8 เขาเป็นมิดฟิลด์ประเภท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่เหมาะกับสไตล์ของ คล็อปป์ มาก ๆ นะครับ แต่ปัญหาทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บและภาษา จึงทำให้เราไม่ได้เห็น เจ้าตัว ร่างทองให้สมกับค่าตัวเกินครึ่งร้อยล้านของเขาเลย

ในตอนแรกที่ย้ายมา เขามีอายุแค่ 23 ปี ซึ่งด้วยวัยแค่นั้น เขาคืออนาคตของทีมที่ คล็อปป์ วาดภาพถึงการเป็นตัวหลักของทีมยาว ๆ แน่นอนในตอนเซ็นสัญญา แต่ปรากฏว่ายิ่งเวลาผ่านไปยิ่งแย่ ทั้งที่ในตอนนี้เขาอายุ 28 น่าจะเป็นช่วงพีคที่สุดในอาชีพ แต่กลับเป็นได้แค่อะไหล่ของทีมที่โค้ชไม่กล้าเสี่ยงเอาลงสนาม จนต้องปล่อยตัวออกจากทีมไปแบบฟรี ๆ ในที่สุดวันนี้ เจ้าตัว ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพกับ แวร์เดอร์ เบรเมน เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับลีกที่เขาคุ้นเคยในเยอรมนี