ปอสเตโคกลู ไม่คิดว่า"ประตูหงส์"จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

ปอสเตโคกลู ได้ยอมรับว่า ตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้น เขามองไม่ออกเลยว่า ประตูที่ลิเวอร์พูลยิงเข้าไปแต่ไม่ได้นั้น จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้

แอนจ์ ปอสเตโคกลู เผยว่า เขายอมรับตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้น เขามองไม่ออกเลยว่าประตูที่ลิเวอร์พูลยิงเข้าไปแต่ไม่ได้ในเกมที่ปราชัยต่อท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนทำให้คนพูดถึงกันในวงกว้าง และไก่เดือยทอง ก็ได้รับประโยชน์จากความผิดพลาดของการสื่อสารของผู้ตัดสินจากห้อง VAR ซึ่งประตูของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ยิงเข้าไปนั้น เป็นลูกที่ไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใด

ปอสเตโคกลู ไม่คิดว่า"ประตูหงส์"จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

ปอสเตโคกลู ถูกถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นได้เริ่มสงบลงแล้ว

ปอสเตโคกลูได้เผยว่า มันเป็นเรื่องที่แปลกนะ โดยปกติแล้วเวลาที่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น คุณจะสัมผัสสิ่งดังกล่าวได้ในระหว่างเกม แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้น และผมไม่คิดว่าจะมีคนสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะผมมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเกม แต่ผมสัมผัสมันไม่ได้เลย หลังจบเกมผู้ตัดสินบอกกับผมว่าจะมีแถลงการณ์ออกมา แต่แม้กระทั่งในตอนนั้น คำถามแรกที่ผมถามก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเลย

“มันเป็นตอนที่ผมเข้าไปแถลงข่าว ซึ่งพวกคุณทุกคนพึมพำกันแล้วไม่มีใครฟังผมเลย ตอนนั้นละที่ผมรู้ว่ามันมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น จากนั้นคุณก็ตระหนักกับตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีความสำคัญพอสมควรแม้ในระหว่างเกมฟุตบอล ฟังนะ อะไรก็ตามที่ผมพูดไป มันจะต้องถูกมองผ่านมุมมองว่าเราเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากความผิดพลาด และแน่นอนว่าเราเป็นอย่างนั้น”

“ข้อเท็จจริงคือมันเป็นประตูที่ถูกต้องตามกฎที่ลิเวอร์พูลยิงได้แต่กลับไม่ได้เป็นประตู คุณคงมองและสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้ เพราะคำถามแรกที่มีคือ มีระบบอะไรบางอย่างที่พังหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ปัญหาด้านความซื่อสัตย์ มันไม่ใช่การยักยอกไม่ทำตามกฎ มันเป็นข้อผิดพลาดในการสื่อสาร เป็นความผิดพลาดที่ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเสียประโยชน์”

“ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติอย่างหนึ่งซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อยู่ในพื้นที่ใหม่ที่มีเทคโนโลยี ซึ่งผมคิดว่าเราจะต้องรับมือกับเรื่องที่มันเป็นครั้งแรกหลาย ๆ อย่างในแนวทางที่เราจัดการกับสิ่งต่าง ๆ มุมมองของผมคือเราต้องการระบบที่ปราศจากข้อผิดพลาด ซึ่งผมไม่คิดว่ามีอยู่จริงและจะไม่มีวันเป็นแบบนั้น เว้นแต่เราต้องการเปลี่ยนเกมของเราให้มีกฎแบบอื่น ซึ่งการแข่งขันต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมง และเราต้องอธิบายการตัดสินใจทุกอย่าง”

ซึ่งจากที่ก่อนหน้านี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ยอมรับว่าเกมพรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นั้น ควรให้จัดมีการแข่งใหม่ หลังจากข้อผิดพลาดของ VAR จนทำให้ทีมของเขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คณะกรรมการผู้ตัดสินของอังกฤษ (PGMOL) ก็ได้ออกมายอมรับถึงความผิดพลาดหลังจากประตูของ หลุยส์ ดิอาซ ถูกริบคืนเพราะล้ำหน้า

คล็อปป์ ก็แสดงความเห็นว่า การแข่งใหม่คือผลลัพธ์ที่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ทราบดีว่าคงไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ “ผมคิดว่ามันควรที่จะมีวิธีแก้ปัญหาสำหรับเรื่องนั้น ผมคิดว่าผลลัพธ์ควรเป็นการแข่งใหม่อีกครั้ง ข้อถกเถียงคือ เราจะเป็นการเปิดทางให้ทุกคนขอแข่งใหม่ มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย” คล็อปป์ กล่าว

“และผมคุ้นเคยกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดและยากลำบากแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงคิดว่าการแข่งใหม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” PGMOL ก็ได้ปล่อยคลิปเสียงของจังหวะดังกล่าวออกมาในคืนวันอังคาร และส่งให้ ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะเผยแพร่ให้แฟนบอลได้รับฟัง “คลิปเสียงนี้มันไม่ได้ทำให้มันมีอะไรเปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว เพราะผมไม่ได้สนใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” คล็อปป์ กล่าวเสริม