Sports7m.co

Arsenal มีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์ค่อนข้างน้อย

อัพเดทเมื่อ 16 พฤษภาคม 2023 เข้าดู ครั้ง
[seed_social]

Arsenal ยังมีความหวังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ แต่ในทางปฏิบัติแทบทุกคนรู้ว่ามันจบลงแล้ว แมนฯ ซิตี้ คือทีมที่จะเป็นแชมป์อย่างแน่นอน

Arsenal ผลการแข่งขันของทีมสองลุ้นแชมป์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้หลายคนมองแบบนั้นในขณะที่จ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ทำได้ตามเป้าบุกอัด เอฟเวอร์ตัน สบายใจ 3-0 แต่ อาร์เซน่อล ในฐานะผู้ไล่ล่ากลับไม่สามารถคว้าชัยชนะที่ต้องการได้ และถึงขั้นแพ้ยังคาบ้านต่อ ไบรท์ตัน นั่นทำให้ “เรือใบสีฟ้า” จะป้องกันแชมป์ฤดูกาลนี้ได้ทันทีหากชนะอีกเพียงนัดเดียวใน 3 นัดสุดท้ายซึ่งอาจทำได้ในสุดสัปดาห์ต่อไปนี้เลยกับโปรแกรมในบ้านพบ เชลซี

Arsenal มีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์ค่อนข้างน้อย

Arsenal หรือไม่ก็อาจได้ฉลองเร็วกว่านั้นหากทางทีมที่ลงสนามก่อนหนึ่งวัน พลาดท่าแพ้อีกนัดในการไปเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

การลงสนามนัดล่าสุดของทีมปืนใหญ่หลังทราบผลว่าเรือใบสีฟ้าฉีกหนีเป็น 4 คะแนนชั่วคราวทำให้ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีเงื่อนไขอื่นนอกจากเอาชนะ ไบรท์ตัน ให้ได้สถานเดียว ขณะที่ ไบรท์ตัน ของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ต้องการชนะเช่นกันเพราะมีลุ้นพื้นที่ยุโรป และพวกเขาก็เป็นตัวแปรสำคัญในการลุ้นหนีตกชั้น ลุ้นโควตายุโรป และลุ้นแชมป์ของหลายๆ ทีม เป็นเกมที่เดิมพันสูงมากเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการชนะ และปรากฎว่าเป็น ไบรท์ตัน ทำได้ ทัพ “นกนางนวล” สมควรเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในเกมนี้เพราะเล่นได้ดีกว่า แข็งแกร่งและมุ่งมั่นมากกว่า ที่สำคัญคือผิดพลาดน้อยกว่า

ปืนใหญ่กับการเล่นในบ้านที่ผ่านมามักเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้เป็นส่วนใหญ่ และครองบอลมากกว่าคู่แข่งโดยตลอด แม้กระทั่งวันที่รับมือ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าแต่ครั้งนี้ ทีมของ อาร์เตต้า ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไบรท์ตัน ทำได้ตามที่ เด แซร์บี้ ประกาศลั่นหลังเกมพ่ายยับต่อ เอฟเวอร์ตัน ว่าจะพาทีมแก้ตัวและโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของทีม

ยอดทีมจากเมืองท่องเที่ยวทางตอนใต้ของอังกฤษเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ด้วยการเล่นที่คุณภาพตั้งแต่หลังยันหน้า แต่ละคนเข้าใจในการเล่นเป็นอย่างดี สอดประสานกันอย่างลงตัว และใช้พื้นที่ว่างได้เป็นประโยชน์นอกจากนี้ยังสามารถเบรกเกมของ อาร์เซน่อล ได้อยู่เรื่อยๆ ทำให้การเล่นของปืนใหญ่ขาดความต่อเนื่อง ไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น เราได้เห็นการฟาวล์การตัดเกมค่อนข่างบ่อยในช่วงแรก และเป็นที่มาอาการบาดเจ็บของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่่ ที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาที 20 พร้อมกับมี เลอันโดร ทรอสซาร์ ลงสนามแทน

อาร์เซน่อล ไม่สามารถขึงเกมได้อย่างเคย และโอกาสลุ้นส่วนใหญ่มาจากการตัดเกมได้ในแดนตัวเองแล้วโต้กลับซึ่งมีพื้นที่พอสมควรเพราะเกมค่อนข้างเปิด โต้กันไปโต้กันมา ในครึ่งแรก โอกาสลุ้นยิงของ อาร์เซน่อล มีมากกว่าที่ 8 ต่อ 3 ครั้ง ทว่าเข้ากรอบเพียงฝั่งละครั้ง แต่ครึ่งหลังความแตกต่างระหว่างทั้งสองทีมก็ชัดมากขึ้น

จริงๆ แล้ว ไบรท์ตัน เล่นด้วยการเซตบอลจากข้างหลังขึ้นทีละแดนไม่ต่างจาก อาร์เซน่อล จากนั้นเริ่มเร่งจังหวะหลังผ่านกลางสนาม มีหลายครั้งที่ปืนใหญ่น่าจะตัดบอลได้ตั้งแต่แดนบน แต่ก็เหมือนเข้าไม่สุด เรี่ยวแรงในการวิ่งไล่ไม่เพียงพอ ทำให้จังหวะการเล่นดูกั๊กไปหมด

ไบรท์ตัน ได้ประตูแรกในช่วงเวลาที่ดีตอนต้นครึ่งหลัง ซึ่ง อาร์เซน่อล เองก็น่าจะป้องกันได้ดีกว่าหากไม่มีเหตุการณ์ที่ ยาคุบ คีวิออร์ โดนเหยียบเอ็นร้อยหวายจนรองเท้าหลุดเป็นความตั้งใจหรือไม่ของ อีวาน เฟอร์กูสัน หัวหอกดาวรุ่งไบรท์ตันที่วิ่งเข้าหาบอลก่อนเหยียบส้นเท้าเซนเตอร์แบ็กทีมชาติโปแลนด์จนทรุดนั่งลงในจังหวะที่ เอสตูปินญาน ได้เปิดบอลย้ำเข้ากลางอีกทีไปถึง เอ็นซีโซ่ ขวิดจ่อๆ ตุงตาข่าย

จังหวะนี้เหมือนว่า คีวิออร์ ทิ้งตัวทันทีเพื่อเรียกฟาวล์ แต่พอผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรจึงกลายเป็นไม่ได้กระโดดป้องกัน หรือไม่ก็มีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวเจ็บจริงจึงไม่สามารถเล่นต่อได้อาร์เซน่อล ต้องปรับเกมทันทีเน้นรุกมากขึ้นเป็น 4-1-4-1 ด้วยการส่ง รีสส์ เนลสัน และ โธมัส ปาร์เตย์ ลงแทน กรานิต ชาคา และ จอร์จินโญ่ และเป็น เนลสัน ที่เกือบตีเสมอให้ทีมได้จากการโยกแล้วยิงทางฝั่งขวาที่บอลหลุดเสาไปนิดเดียวเกมของ อาร์เซน่อล ยังเร่งไม่ขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องการประตู ความกดดันเริ่มถาโถมเข้าใส่มากขึ้น แม้แต่ อาร์เตต้า ยังโดนใบเหลืองหลังโวยวายเกินเหตุ

Arsenal มีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์ค่อนข้างน้อย

สามารถติดตามข่าวสาร

ฟุตบอลได้ที่ : SPORTS7M.CO

แฟนเพจ : SPORTS7M

ไลน์แอด : @SPORTS7M

ข่าวกีฬา ล่าสุด