โจ โกเมซ ลั่นพร้อมรับบทฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล

โจ โกเมซ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล ประกาศชัด พร้อมเล่นเป็นฟูลแบ็กเสมอ โดยบอกด้วยว่าถ้าเป็นแต่ก่อนตนอาจจะไม่เห็นด้วยกับการโยกตำแหน่งเท่าไหร่

โจ โกเมซ กองหลัง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนพร้อมที่จะเล่นเป็นฟูลแบ็ก ถ้าหากทีมต้องการใช้งานตนในตำแหน่งนั้น โกเมซ เคยทำผลงานได้โดดเด่น ในการรับบทเซนเตอร์แบ็กในช่วงแรกๆ ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน ลิเวอร์พูล แต่หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บครั้งร้ายแรงเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 แล้วนั้นเขาก็ไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริงอีกต่อไป

โจ โกเมซ ลั่นพร้อมรับบทฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล

โจ โกเมซ กองหลังลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มอี ซึ่งออกไปแพ้ให้กับ ตูลูส

จากที่ในเกมนี้มีจังหวะปัญหา เมื่อ ลิเวอร์พูล ถูกวีเออาร์ริบประตูตีเสมอ 3-3 ของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย 90+7 หลังจาก จอร์จี คาบาคอฟ ผู้ตัดสินชาวบัลแกเรียไปดูจอข้างสนาม แล้วมองว่า อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำแฮนด์บอลในจังหวะเกมรุกของ “หงส์แดง” ก่อนยิงประตู ทั้งที่บอลโดนตัวก่อนกระดอนมาโดนแขน ไม่ใช่การเจตนาทำแฮนด์บอลโดยตรง

โกเมซได้มองว่า สาเหตุที่แพ้ในเกมนี้ เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ป้องกัน ตูลูส ได้ไม่ดีพอ เป็นเหตุให้โดนนำห่าง 2-0 และ 3-1 รวมถึงกลับมาตั้งหลักได้ช้าเกินไป หลังจากเป็นฝ่ายตามหลัง แต่ยืนยันว่าจะการันตีเข้ารอบให้ได้ในอีก 2 เกมที่เหลือ

แนวรับลิเวอร์พูล กล่าวว่า “มันน่าผิดหวัง แต่เราไม่ควรตกเป็นฝ่ายตามหลังแบบนั้นตั้งแต่แรก เราต้องพยายามเล่นเกมรับให้ดีขึ้น และต่อสู้ในช่วงต้นเกมได้ดีกว่านี้ หลังจากคืนนี้เรายังมีโอกาสที่จะพยายาม และผ่านเข้ารอบ เราต้องลุกขึ้นมาและเดินหน้าต่อไปอีกครั้ง มันน่าผิดหวัง แต่เรายังมี 2 เกมให้ลุ้นผ่านเข้ารอบ”

“มันน่าผิดหวังอยู่นะ แต่เราก็ไม่ควรตกเป็นฝ่ายตามหลังเขาแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว เราต้องพยายามเล่นเกมรับให้ดียิ่งขึ้น และต่อสู้ในช่วงต้นเกมได้ดีกว่านี้ หลังจากคืนนี้เรายังมีโอกาสที่จะพยายามและผ่านเข้ารอบให้ได้ เราต้องลุกขึ้นมาและเดินหน้าต่อไปอีกครั้ง มันอาจจะผิดหวังบ้าง แต่เรายังมี 2 เกมให้ลุ้นผ่านเข้ารอบ”

ซึ่งดาวเตะชาวอังกฤษได้เผยต่อว่า “ทุกวันนี้ผมอาจจะมาถึงวัยที่ไม่ได้ต่อต้านมากมายอะไรอีกแล้ว (กับการเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ก) ผมคิดว่าช่วงนี้ผมคงต้องพยายามยอมรับว่า การได้ลงเล่นในตำแหน่งไหนก็ตาม จะถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า แน่นอนว่าถ้าให้ผมเลือกเองได้แล้วล่ะก็ ผมก็คงจะยังเลือกให้ตัวเองเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ก”

“แต่เมื่อผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ว คุณจะรู้สึกชื่นชอบกับการเล่นในตำแหน่งอื่น แล้วเรียนรู้วิธีการเล่นในตำแหน่งนั้น ผมเองก็สนุกกับการพยายามวิ่งขึ้นวิ่งลง และการเล่นในตำแหน่งแบบนั้นเหมือนกัน มันทำให้ผมได้เจอกับความท้าทายใหม่ๆ และผมก็ชื่นชอบความท้าทายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”

” ผมคิดว่าสมัยที่ผมอายุน้อยกว่านี้น่ะ ผมอาจจะต่อต้านเรื่องแบบนี้มากกว่าในทุกวันนี้ และมีมุมมองต่างออกไปเวลาเล่นในตำแหน่งนั้น แต่พออายุเยอะขึ้นแล้วน่ะ มันก็ต้องยอมรับเรื่องแบบนั้นให้ได้ และยินดีรับความท้าทายที่รออยู่”