เมสัน เหรียญมีสองด้าน กระแสสังคมก็เช่นกัน จึงยากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะหาบทสรุปในช่วงเวลาอันใกล้นี้
เมสัน นับตั้งแต่ได้รับโอกาสจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในทีมชุดใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฝีเท้าได้ดีกว่าที่คาด 17 ประตูจาก 49 เกมในฤดูกาล 2019-20 ที่ได้โอกาสแบบเต็มตัว และ 12 ประตูจาก 52 เกมซีซั่นถัดมาทุกอย่างเป็นไปตามขั้นบันได หลังจากคว้ารางวัล จิมมี่ เมอร์ฟี่ ยัง เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ หรือ นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ในฤดูกาล 2018-19แต่อย่างที่ทราบกัน ทุกอย่างหยุดชะงักลงในช่วงปลายเดือนมกราคม ปี 2022 เพราะข้อหาข่มขืนและทำร้ายร่างกายแฟนสาวในช่วงเวลานั้น
เมสัน ถูกยกเลิกสัญญาจากบรรดาสปอนเซอร์ทั้งหมด ขณะที่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สั่งพักงานตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมาจนกว่าจะทราบบทลงโทษหรือคดีถึงที่สิ้นสุด
จนกระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเวลา 13 เดือนผ่านไป สำนักงานอัยการ ได้ยกเลิกข้อหาทั้งหมดกับ แต่ในมุมของสโมสร ยังคงดำเนินการสอบสวนเป็นการภายใน และยังไม่มีบทสรุปเรื่องอนาคตปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่กดดันหรือเร่งรีบให้ต้องตัดสินใจ ก็คือสัญญาปัจจุบันของ เจ้าตัว ที่มีอายุถึงปี 2025ในมุมของแฟนบอล เป็นธรรมดาที่จะมีความเห็นที่แตกต่าง ฝั่งหนึ่งมองว่าควรตัดอนาคตไปเลย อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่าควรให้โอกาสกลับตัวกลับใจ เพราะเสียดายฝีเท้า โดยเฉพาะเรื่องความเฉียบคมในการยิงได้ทั้งสองเท้า
แฟนบอล และสื่อมวลชน ต่างเฝ้ารอว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีคำตอบอย่างไรเรื่อง เจ้าตัว และการประกาศปล่อยตัวนักเตะออกจากสโมสร 7 คนในช่วงซัมเมอร์นี้ ล่าสุดก็ยังไม่พบชื่อของกองหน้าหมายเลข 11
เจ้าตัว ยังคงสถานะเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลต่อการสอบสวนของสโมสรที่กำลังดำเนินอยู่มีการคาดการณ์ว่า หนึ่งในทางออกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาคือการปล่อยยืม เจ้าตัว ไปเล่นกับสโมสรต่างแดนในฤดูกาล 2023-24 เพราะการใส่ชื่อนักเตะกลับมาอยู่ในทีมซีซั่นหน้า อาจถูกต่อต้านจากแฟนบอลกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณจากสโมสรว่ายังคงต้องการให้ เจ้าตัว อยู่กับทีมต่อไปความสนใจที่ชัดเจนในตอนนี้มาจากสโมสรในลีกตุรกี แต่ถ้าพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เซเรียอา หรือ ลาลีกา ดูจะเหมาะสมกับ ที่ต้องการขัดสนิมมากกว่าโอกาสที่น่าจะตัดทิ้งไปได้เลยคือ พรีเมียร์ลีก
ใครจะรู้ บางที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจมีบทสรุปอยู่ในใจแล้วก็เป็นได้ แต่ที่ไม่สามารถดำเนินการหรือประกาศออกไปทันทีทันใด นั่นเป็นเพราะกระแสจากแฟนบอลที่ไม่เห็นด้วยนั่นทำให้การปล่อย เจ้าตัว ไปเล่นลีกอื่นในรูปแบบยืมตัวฤดูกาล 2023-24 ดูจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ทำให้กองหน้าวัย 21 ได้ปรับปรุงตัว ก้มหน้าก้มตาและมองเห็นความสำคัญของเกมฟุตบอลมากที่สุดขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอกจากการมองเรื่องฝีเท้า ผลงาน และสภาพจิตใจของนักเตะแล้ว ก็จะมีเวลาคิดทบทวนเรื่องอนาคตของ เจ้าตัว มากขึ้น พร้อมกับการประเมินความคิดเห็นของแฟนบอลด้วยหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เชื่อว่า เจ้าตัว จะกลับมาอยู่ในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้งในฤดูกาล 2024-25 ไปพร้อมๆ กับการต่อสัญญาฉบับใหม่และเมื่อถึงตอนนี้ แฟนบอลคงให้โอกาส เจ้าตัว
