Sports7m.co

Napoli ในรอบ33ปีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา สำเร็จ

อัพเดทเมื่อ 12 พฤษภาคม 2023 เข้าดู ครั้ง
[seed_social]

Napoli ไม่เคยไปถึงสคูเด็ตโต้ได้อีกเลยนับตั้งแต่หมดยุคของ ดีเอโก้ มาราโดน่า คือประโยคที่ตามหลอกหลอนทัพลูกหนังจากเนเปิ้ลส์มานานหลายปี

Napoli กลับมาคว้าแชมป์มาได้สำเร็จได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้ภายใต้การคุมทีมของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ และประธานสโมสร ออเรลิโอ เด เลาเรนตีสการรอคอยเกินกว่าสามทศวรรษสิ้นสุดลง แชมป์ในครั้งนี้ คือสิ่งสวยงามอย่างยิ่งในโลกลูกหนัง เป็นสิ่งที่ต่อให้ไม่ใช่แฟนบอลอัซซูร์รี่ก็ต่างยินดีในความสำเร็จแต่กว่าจะมีวันนี้ได้ พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง และทำอย่างไรถึงกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้งย้อนไปในยุคของเทพเจ้าอาร์เจนไตน์ ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้แชมป์ลีกสูงสุดอิตาลีสองสมัย

Napoli ในรอบ33ปีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา สำเร็จ

Napoli ไม่มีตัวตนอีกแล้ว เด เลาเรนตีส กล่าวถึงสโมสรในช่วงเวลานั้นที่แม้กระทั่งชุดแข่งใหม่ของสโมสรยังต้องซื้อที่ร้านริมถนน

เด เลาเรนตีส ที่เป็นคนเมืองหลวงกรุงโรมตั้งแต่เกิดแต่กลับหลงรักตามคุณพ่อ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการบริหารสโมสรมากนัก เขาใช้หลักง่ายๆ ในการบริหารทั่วไปซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการทำหนังนั่นคือ ต้องใช้จ่ายไม่เกินตัว

ข้อดีสำคัญ ในตอนนั้นคือ แม้ตกชั้นสู่ระดับล่าง แต่แฟนบอลก็ยังสนับสนุนทีมเต็มที่ด้วยการเข้าชมเกมในสนามเป็นสถิติใหม่ของเซเรีย ซี ที่จำนวนเฉลี่ย 51,000 ต่อนัดซึ่งกลายเป็นรายได้หลักของสโมสฤดูกาลแรก  พลาดเลื่อนชั้นน่าเสียดายหลังพ่ายในช่วงเพลย์ออฟ แต่ฤดูกาลถัดมาก็ขึ้นสู่เซเรีย บี ได้สำเร็จ พร้อมกับได้ชื่อเก่า “S.S.C. Napoli” กลับมาใช้อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ปี 2006

เพียงฤดูกาลเดียวในเซเรีย บี เลื่อนชั้นปีต่อปีขึ้นสู่เซเรีย อา และยกระดับทีมต่อเนื่องจนกระทั่งจบอันดับ 6 ในฤดูกาล 2010/11 ที่คุมทัพโดย วอลเตอร์ มาซซารี่ ก่อนจะไต่ถึงอันดับ 3 ในฤดูกาลต่อมา ทำให้ได้สิทธิ์ลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ในช่วงเกือบสองทศวรรษที่ เด เลาเรนตีส เข้ามาโอบอุ้มสโมสรให้ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง  ผ่านช่วงเวลาแห่งความทรงจำมากมายไม่ว่าจะเป็นการกลับคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง การได้เล่นถ้วยยุโรปครั้งแรกในรอบ 13 ปี การได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก และได้แชมป์โคปปา อิตาเลีย ถึงสามสมัยในยุคของ ราฟา เบนิเตซ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ๋

มียอดนักเตะหลายต่อหลายคนค้าแข้งกับทีมโดยเฉพาะในยุคสามประสาน มาเร็ค ฮัมซิค, เอเซเกล ลาเวซซี่ และ เอดินสัน คาวานี่ จนกระทั่งมาถึงความภูมิใจแห่งเนเปิ้ลส์อย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ที่รับใช้สโมสรเกินกว่าสี่ร้อยนัด

กอนซาโล่ อีกวาอิน อดีตกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาก็เคยมีช่วงพีคในอาชีพตอนเล่นให้  ที่ทำสถิติยิงมากสุดต่อฤดูกาล 36 ประตู ก่อนหักอกแฟนๆ ด้วยการย้ายไป ยูเวนตุส จากนั้นเป็น ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ก้าวขึ้นมาเฉิดฉายเต็มตัวจนกลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร

ทว่าทั้งหมดทั้งมวลไม่มีนักเตะคนใดหรือทีมชุดใดที่ช่วยกันคว้าแชมป์ลีกอันเป็นสุดยอดปรารถนาของแฟนบอลมาครองได้ แม้กระทั่งยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่กวาดไปถึง 91 คะแนนในฤดูกาล 2017/18 ก็ยังไม่สามารถโค่น ยูเวนตุส ลงได้

หลายต่อหลายครั้ง ถูกจดจำในฐานะทีมที่เล่นเกมรุกดุดัน ยิงประตูได้มากมาย แต่ไม่ดีพอที่จะเป็นแชมป์ ยิ่งภาพจำของอิตาลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องสไตล์เกมรับเหนียวแน่น และเป็นพื้นฐานความสำเร็จของหลายทีม  จึงเป็น “Beautiful loser” ที่ได้รับเพียงเสียงปรบมือ แต่ไร้มงกุฎ

ในฤดูกาล 2020/21  ในยุค เจนนาโร่ กัตตูโซ่ พลาดตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน่าเสียดายหลังหลุดเสมอ เวโรน่า 1-1 ในนัดสุดท้ายที่เล่นในบ้าน ส่งผลให้ ยูเวนตุส ที่บุกชนะ โบโลญญ่า 4-1 แซงจบอันดับ 4 แทนหลังจบฤดูกาลไม่กี่วัน ออเรลิโอ เด เลาเรนตีส ประธานสโมสรจึงปลด กัตตูโซ่ ออกจากตำแหน่ง และดึง ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ มาคุมทีมแทนเด เลาเรนตีส ยื่นชอบ สปัลเล็ตติ มานาน และเคยแอบไปคุยเอาไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ กัตตูโซ่ ยังอยู่ในตำแหน่ง ก่อนได้ร่วมงานกันในช่วงจบฤดูกาล

Napoli ในรอบ33ปีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา สำเร็จ

สามารถติดตามข่าวสาร

ฟุตบอลได้ที่ : SPORTS7M.CO

แฟนเพจ : SPORTS7M

ไลน์แอด : @SPORTS7M

กัลโช่ เซเรีย อา ล่าสุด